This post is also available in:
English (อังกฤษ)
简体中文 (จีนประยุกต์)
한국어 (เกาหลี)
การป้องกันโรคหลังการสัมผัส (PEP) เป็นยาที่รับประทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนโดยผู้ที่ไม่มีเอชไอวีแต่อาจสัมผัสเชื้อเอชไอวี
หากรับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังจากสงสัยว่าอาจสัมผัสเชื้อเอชไอวี ยา PEP จะลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีหลังจากได้รับเชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น ถุงยางอนามัยฉีกขาดหรือการแอบถอดถุงยางอนามัย ยา PEP จะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีได้ แต่ไม่ทั้งหมด และก็มีโอกาสที่การรับประทานยา PEP จะไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเลย
PEP เป็นยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ ดังนั้น คุณต้องพบแพทย์เพื่อขอรับยา คุณสามารถโทรติดต่อ Healthdirect ได้ที่หมายเลข 1800 022 222 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ Get PEPเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ PEP ใกล้บ้านในทุกรัฐและดินแดน
PEP ไม่ได้ช่วยป้องกัน STI/BBV และไม่ควรใช้ทดแทนมาตรการการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
ยา PEP ทำงานอย่างไร
ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงแรกหลังจากสัมผัสเชื้อเอชไอวี ปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายจะยังต่ำอยู่มาก ในช่วงนี้จะมีโอกาสที่ยาต้านเอชไอวีสามารถหยุดเชื้อเอชไอวีไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งอาจหยุดยั้งเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายและป้องกันการติดเชื้อได้สำเร็จ
ยา PEP มีประสิทธิภาพเพียงใด
ผลการวิจัยประมาณการไว้ว่ายา PEP สามารถลดการแพร่เชื้อเอชไอวีได้ถึง 81% PEP ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อเอชไอวีได้ แต่ไม่ทั้งหมด ยังมีโอกาสที่การรับประทานยา PEP จะไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
ยา PEP กับ PrEP ต่างกันอย่างไร
PEP เป็นยาที่รับประทานเป็นเวลา 28 วันหลังการสัมผัสเชื้อ PrEP รับประทานทุกวันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์อยู่ร่างกายก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวีที่อาจจะเกิดขึ้น
ควรรับประทานยา PEP เมื่อใด
คุณต้องเริ่มรับประทานยา PEP ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากที่คิดว่าน่าจะสัมผัสเชื้อ HIV เพื่อให้ยาได้ผล หากเวลาผ่านไปเกิน 72 ชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่คุณอาจจะได้สัมผัสเชื้อ เราก็ยังคงแนะนำให้คุณไปพบแพทย์เพื่อรับทราบถึงทางเลือกที่คุณมี
ผู้ที่มีสิทธิ์รับยา
โอกาสที่อาจจะได้สัมผัสเชื้อเอชไอวีจากสถานบริการไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวเพื่อขอรับยา PEP แพทย์หรือพยาบาลจะทำการประเมินว่าคุณควรได้รับยา PEP หรือไม่จากเกณฑ์ดังต่อไปนี้
- ลักษณะของการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (เช่น การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก โดยเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับ การได้รับเชื้อทางเข็มฉีดยา หรือการได้รับเชื้อจากกิจกรรมอื่น) และความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ
- สถานะเอชไอวีของบุคคลที่เกี่ยวข้อง หากคุณไม่ทราบสถานะเอชไอวีของบุคคลที่คุณคิดว่าอาจจะแพร่เชื้อให้คุณ แพทย์จะใช้สถิติข้อมูลเอชไอวีเพื่อช่วยพิจารณาว่าคุณจำเป็นต้องได้รับยา PEP หรือไม่
- คุณมีเชื้อเอชไอวีอยู่ในร่างกายหรือไม่ PEP จะไม่ออกฤทธิ์หรือจ่ายให้บุคคลที่มีเชื้อเอชไอวีอยู่แล้ว
แนวทางในการจ่ายยา PEP กำหนดโดย Australasian Society for HIV, Viral Hepatitis and Sexual Health Medicine (ASHM) และมีไว้ให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ปฏิบัติตาม หากคุณต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของแนวทางการจ่ายยา PEP ของ ASHM สามารถดูได้ที่นี่
การรับยา PEP
แม้ว่าจะมีแนวทางสำหรับการจ่ายยา PEP กำหนดไว้ แต่บุคลากรทางการแพทย์อาจประเมินว่าบุคคลนั้นมีสิทธิ์ได้รับยาหรือไม่เป็นกรณี ๆ ไป
คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PEP โดยการปรึกษาแพทย์หรือโทรติดต่อสายด่วนเกี่ยวกับยา PEP HIVในรัฐหรือดินแดนของคุณ
คุณสามารถโทรติดต่อ Healthdirect ได้ที่หมายเลข 1800 022 222 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ Get PEPเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับหน่วยงานบริการ PEP ใกล้บ้านในทุกรัฐและดินแดน
โรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพทางเพศบางแห่งจะจ่ายยา PEP ให้ฟรี มิฉะนั้นคุณอาจต้องจ่ายค่ายาเอง หากคุณไม่มีสิทธิ์ในสวัสดิการ Medicare คุณอาจต้องจ่ายแพงขึ้น
การรับประทานยา PEP
คุณต้องเริ่มรับประทานยา PEP ภายใน 72 ชั่วโมงนับจากที่คิดว่าน่าจะสัมผัสเชื้อ HIV เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพ หากเวลาผ่านไปเกิน 72 ชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่คุณอาจจะได้สัมผัสเชื้อ เราก็ยังคงแนะนำให้คุณไปพบแพทย์
การตรวจเชื้อไวรัสเอชไอวี
เมื่อคุณเริ่มรับประทานยา PEP บุคลากรทางการแพทย์มักจะเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อเอชไอวี การตรวจด้วยวิธีนี้มีจุดประสงค์เพื่อดูว่าคุณมีเชื้อเอชไอวีอยู่แล้วก่อนรับยา PEP หรือไม่ ระหว่างรับประทานยา PEP คุณจะต้องเข้ารับการตรวจเอชไอวีและ STI อื่น ๆ ด้วย
คุณจะต้องตรวจเอชไอวีอีกครั้ง 3 เดือนหลังการรักษาเพื่อรับรองว่าการรักษาด้วยยา PEP มีประสิทธิภาพ
วิธีรับประทานยา PeP
คุณจะต้องรับประทานยา PeP ทุกวัน เป็นเวลา 28 วัน หากคุณลืมรับประทานยา ห้ามเพิ่มขนาดยาเพื่อเป็นการชดเชย แต่ให้รับประทานยาโดยเร็วที่สุดและติดต่อแพทย์ผู้จ่ายยาเพื่อหารือว่าการรับประทานยาล่าช้าจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรักษาหรือไม่ และควรจะปฏิบัติตนอย่างไรต่อไป
หากคุณกำลังใช้หรือวางแผนที่จะใช้ยาอื่น ขอแนะนำให้ปรึกษาเรื่องนี้กับแพทย์ผู้จ่ายยาเพื่อหาแนวทางในการลดผลกระทบที่อาจมีต่อการรักษาด้วยยา PEP
จะเกิดอะไรขึ้น หากฉันสัมผัสเชื้ออีกระหว่างรับประทานยา PEP
หากคุณมีโอกาสสัมผัสเชื้อเอชไอวีอีกระหว่างรับประทานยา PEP ขอแนะนำให้คุณติดต่อแพทย์เนื่องจากคุณจะต้องรับประทานยา PEP นานขึ้น
ผลข้างเคียง
บางคนอาจมีผลข้างเคียงจากการรับประทานยา PEP แต่บางคนก็ไม่มี โดยทั่วไปแล้ว ผลข้างเคียงจากการรับประทานยา PEP จะมีเพียงเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง ผลข้างเคียงอาจได้แก่คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดศีรษะ เหนื่อยล้าและอาเจียน โดยปกติ ผลข้างเคียงจะค่อย ๆ หายไปประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากรับประทานยา PEP และหายสนิทหลังจากรับประทานยา PEP จนครบแล้ว
หากพบผลข้างเคียงหรือมีข้อกังวลอื่นใดขณะที่รับประทาน PEP ให้ปรึกษาแพทย์ผู้จ่ายยา แพทย์ผู้จ่ายยาอาจปรับเปลี่ยนยา PEP ที่คุณใช้เพื่อลดผลข้างเคียงดังกล่าว
หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PEP ตลอดจนวิธีที่ดีที่สุดในการขอรับยา PEP โปรดติดต่อองค์กรเพื่อคนทำงานบริการในพื้นที่
คุณสามารถโทรติดต่อ Healthdirect ได้ที่หมายเลข 1800 022 222 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ Get PEPเพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ PEP ใกล้บ้านในทุกรัฐและดินแดนโปรดอ่าน HIV & AIDSเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแพร่เชื้อ การป้องกัน การตรวจและการรักษาเอชไอวี