This post is also available in: English (อังกฤษ) 简体中文 (จีนประยุกต์) 한국어 (เกาหลี)
หูดข้าวสุก (MC) เป็นการติดเชื้อทางผิวหนังที่ไม่อันตรายและพบได้ทั่วไป ซึ่งเกิดจากไวรัสมอลลัสคุม คอนทาจิโอซุม (Molluscum Contagiosum Virus) ไวรัสจะก่อให้เกิดตุ่มขนาดเล็ก เงาแวววาวคล้ายไข่มุก กลมเกลี้ยง และมีรอยบุ๋มตรงกลาง หูดข้าวสุกไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) แต่สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสกันโดยตรงทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์และกิจกรรมอื่น ๆ โรคนี้พบในเด็กมากกว่า แต่สามารถส่งผลต่อคนทุกเพศทุกวัย การติดเชื้อมักจะหายไปได้เอง แต่การรักษาสามารถทำให้ระยะเวลาที่เกิดอาการลดลงได้
คุณเป็นหูดข้าวสุกได้ทุกที่บนร่างกาย โดยเฉพาะใบหน้า คอ แขน ขา ท้อง และบริเวณอวัยวะเพศ หูดอาจขึ้นแค่ตุ่มเดียวหรือขึ้นหลายตุ่มรวมกันเป็นกระจุก ก้อนหูดมักไม่ค่อยพบบนฝ่ามือหรือฝ่าเท้า
ลักษณะผิดสังเกตและอาการ
หากคุณมีอาการของการติดเชื้อหูดข้าวสุก อาการมักจะปรากฏภายใน 1 สัปดาห์จนถึง 6 เดือนนับจากที่ได้รับเชื้อ โดยเฉลี่ยแล้วคือ 2 – 3 เดือน โดยส่วนใหญ่หูดข้าวสุกจะหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่บางคนจะมีภาวะแทรกซ้อน รวมถึงแผลพุพอง (การติดเชื้อที่ผิวหนังจากการเการอยโรค) หรือโรคตาแดง (ซึ่งอาจเกิดขึ้นหากรอยโรคเกิดขึ้นที่เปลือกตา)
Content warning: click to show images
ช่องคลอด/ปากช่องคลอด
หูดข้าวสุกทำให้เกิดตุ่มเล็ก ๆ (เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 – 5 มม.) ปรากฏบนผิวหนัง ซึ่งมักจะอยู่ที่ต้นขา อวัยวะเพศ และบริเวณท้อง เรามักไม่ค่อยพบหูดข้าวสุกบนฝ่ามือหรือฝ่าเท้า
ตุ่มหูด:
- ไม่เจ็บแต่อาจจะคันเล็กน้อย
- ดูคล้ายสิวเสี้ยน
- มักจะมีรอยบุ๋มตรงกลาง
- อาจมีแค่ตุ่มเดียวหรือขึ้นเป็นกระจุก
- อาจมีเนื้อสีขาวคล้ายข้าวสุก หรือเนยแข็งออกมาเมื่อบีบ
การแพร่เชื้อ
หูดข้าวสุกติดต่อกันได้โดยการสัมผัสบริเวณที่เป็นโรคโดยตรง ซึ่งเป็นการสัมผัสผิวหนังรูปแบบใดก็ได้ รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์
คุณยังอาจแพร่เชื้อไปตามร่างกายของคุณเองด้วยการเกา โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแผล ในบางครั้ง หูดข้าวสุกสามารถแพร่กระจายผ่านการใช้อ่างอาบน้ำหรือสระว่ายน้ำร่วมกันกับผู้ที่มีเชื้อไวรัสหูดข้าวสุก หรือโดยการสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ที่มีเชื้อไวรัสติดอยู่ เช่น เซ็กส์ทอย ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า หรือเครื่องนอน
หูดข้าวสุกติดต่อกันได้ตราบเท่าที่ยังมีก้อนหูดอยู่ ซึ่งอาจเป็นเวลานานหลายเดือน
การป้องกัน
หูดข้าวสุกติดต่อกันจากการสัมผัสผิวหนัง ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคนี้คือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับรอยโรคที่มองเห็นได้ของผู้ที่มีเชื้อ
ถุงยางอนามัย ถุงมือ และแผ่นยางอนามัยป้องกันหูดข้าวสุกได้แต่แบบจำกัด เนื่องจากไวรัสอาจอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายที่อุปกรณ์ป้องกันเหล่านี้ไม่ได้ปกคลุม
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว เซ็กส์ทอย และสิ่งของอื่น ๆ ร่วมกับผู้ที่คุณคิดว่าอาจจะติดเชื้อหรือทราบว่าติดเชื้ออยู่
หากคุณสังเกตเห็นว่ามีหูดขึ้นที่ตัวคุณหรือคู่นอนของคุณ คุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหนังบุคคลอื่นโดยตรง จนกว่าคุณจะได้รับการรักษาหรือจนกว่าก้อนหูดเหล่านั้นจะหายไปเอง เมื่อเป็นหูดข้าวสุกที่อวัยวะเพศ ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ทำการรักษา เนื่องจากตุ่มเหล่านี้อาจใช้เวลานานกว่าจะหายไป
การตรวจ
ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจหูดข้าวสุกมีดังนี้ คุณสามารถดูรายชื่อคลินิกสุขภาพทางเพศที่ยินดีให้คำปรึกษากับคนทำงานบริการได้ที่สถานที่ตรวจของเรา
วิธีตรวจ
- ไม่มีการตรวจหาหูดข้าวสุก โรคนี้วินิจฉัยจากลักษณะของตุ่ม/รอยโรคเท่านั้น
ควรตรวจเมื่อใด
- หากคุณสังเกตเห็นรอยโรคผิดปกติบนผิวหนัง ขอแนะนำให้คุณไปพบแพทย์หรือไปที่คลินิกสุขภาพทางเพศของคุณเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง
ข้อมูลอื่นๆ
- อาจมีการเข้าใจผิดว่าหูดข้าวสุก เป็นหูดหงอนไก่หรือสิว ให้คุณศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทั้งสองโรคเพื่อแยกแยะโรคเหล่านี้ในระหว่างการตรวจสุขภาพลูกค้า
- หากคุณมีอาการของหูดข้าวสุก แพทย์หรือพยาบาลของคุณอาจแนะนำให้ทำการตรวจเพื่อแยกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ออกไป
- คุณอาจจะต้องจ่ายค่าพบแพทย์หรือฟรีโดยแพทย์เรียกเก็บเงินจากรัฐบาล
- โดยปกติแล้ว คุณสามารถรับบริการจากคลินิกสุขภาพทางเพศได้ฟรี แม้ว่าคุณจะไม่มีสวัสดิการ Medicare ก็ตาม
การรักษา
ตามปกติ โรคหูดข้าวสุกจะหายไปได้เอง แต่ก็อาจใช้เวลานานถึงสองปี ในช่วงนี้ อาการอาจจะเป็น ๆ หาย ๆ การรักษาสามารถลดระยะเวลาในการติดเชื้อลง ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น
ข้อมูลที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับการรักษาโรคนี้มีดังนี้
วิธีรักษา
- โดยปกติ จะรักษาโดยใช้ไนโตรเจนเหลวจี้ทำให้หูดแข็งตัว ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาของอาการ
- การรักษาด้วยไนโตรเจนเหลวเป็นการรักษาเพื่อความสวยงามและไม่ใช่การบำบัดรักษา เนื่องจากไวรัสจะยังคงอยู่บนผิวหนังจนกว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะขจัดออกไป
ค่าใช้จ่ายและข้อมูลอื่นๆ
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแออาจใช้เวลานานกว่าจะหายจากหูดข้าวสุก
- คู่นอนของผู้ที่เป็นหูดข้าวสุก ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาหากไม่มีรอยโรค/หูดบนร่างกาย
- คลินิกสุขภาพทางเพศมักจะไม่เรียกเก็บค่ารักษาโดยเรียกเก็บจากรัฐบาลแทน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีสวัสดิการ Medicare การรักษาก็น่าจะฟรี
- หากคุณพบแพทย์ GP คุณอาจจะเสียค่าธรรมเนียมหรือฟรีโดยแพทย์เรียกเก็บเงินจากรัฐบาล
- หูดข้าวสุกสามารถรักษาให้หายได้ แต่ร่างกายจะไม่สร้างภูมิคุ้มกันใด ๆ คุณสามารถติดเชื้อหูดข้าวสุกได้ใหม่
หูดข้าวสุกอาจจะกระทบต่องานของฉันได้อย่างไร
ข้อควรพิจารณาในทางปฏิบัติ
- หูดข้าวสุกสามารถติดต่อระหว่างคุณกับลูกค้าของคุณได้ด้วยการสัมผัสผิวหนังโดยตรง ใช้อุปกรณ์ป้องกันหรือเสนอให้บริการแบบอื่น หากคุณสังเกตเห็นอาการที่ตัวคุณเองหรือลูกค้าและกังวลว่าจะเกิดการติดเชื้อ
- การรักษาอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากหูดอาจใช้เวลานานกว่าจะหายขาด
- คุณควรแจ้งบุคคลที่ทำงานขึ้นคู่กับคุณด้วยหากคุณพบว่าคุณมีหูดข้าวสุก