This post is also available in: English (อังกฤษ) 简体中文 (จีนประยุกต์) 한국어 (เกาหลี)
โรคท่อปัสสาวะอักเสบชนิดไม่เจาะจง (NSU) ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในชื่อ NGU หรือโรคหนองในเทียม (Non gonococcal urethritis) คือความเจ็บป่วยซึ่งเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้ทั่วไป เป็นการอักเสบที่ท่อปัสสาวะ (ท่อที่นำปัสสาวะออกจากร่างกาย) โดยอาจมีหรือไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (โรคหนองในแท้ หนองในเทียม หรือโรคไมโคพลาสมา เจนิทาเลียม) โรคนี้สามารถติดต่อกันจากการมีเพศสัมพันธ์หรือจากกิจกรรมอื่น ๆ การติดเชื้อทำให้มีตกขาว รู้สึกแสบและ/หรือเจ็บในท่อปัสสาวะ แต่ก็อาจไม่มีอาการใด ๆ ได้เช่นกัน ท่อปัสสาวะอักเสบชนิดไม่เจาะจงส่งผลต่อผู้ที่มีองคชาตเป็นส่วนใหญ่ ผู้ที่มีปากช่องคลอดสามารถได้รับเชื้อแต่การวินิจฉัยอาจเป็นเรื่องที่ยากกว่าเนื่องจากโรคนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดอาการมากมายนัก
ท่อปัสสาวะอักเสบชนิดไม่เจาะจงมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสได้หลายชนิด รวมถึงเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรืออาจมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่ไม่ได้ก่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ได้
การรักษาท่อปัสสาวะอักเสบชนิดไม่เจาะจงโดยทั่วไปคือการให้ยาปฏิชีวนะในระยะเวลาสั้น ๆ และคุณไม่น่าจะหายได้เองหากไม่ได้รับการรักษา หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา ท่อปัสสาวะอักเสบชนิดไม่เจาะจงอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงยิ่งขึ้น
ลักษณะผิดสังเกตและอาการ
ท่อปัสสาวะอักเสบชนิดไม่เจาะจงอาจไม่มีอาการ แต่หากมีอาการ อาการมักจะเกิดภายใน 2 ถึง 35 วันหลังจากที่ได้รับเชื้อ อาการยังสามารถปรากฏขึ้นหลังจากผ่านไปแล้วนานหลายเดือน หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา เชื้ออาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ต่อมลูกหมาก ลูกอัณฑะ ปากมดลูก หรือกระเพาะปัสสาวะ
Content warning: click to show images
องคชาต
ผู้ป่วยอาจจะไม่แสดงอาการใด ๆ หากมีลักษณะผิดสังเกตหรืออาการ อาการเหล่านี้อาจได้แก่:
- มีมูกสีขาวเล็กน้อยหรือใสออกมาทางท่อปัสสาวะ
- ระคายเคืองเมื่อปัสสาวะ
- บวมหรืออาการกดเจ็บที่ลูกอัณฑะ
- มีรอยแดงที่ช่องปัสสาวะ
ช่องคลอด/ปากช่องคลอด
ผู้ป่วยมักจะไม่แสดงอาการใด ๆ หากมีลักษณะผิดสังเกตหรืออาการ อาการเหล่านี้อาจได้แก่:
- มักจะไม่มีอาการ แต่ตกขาวอาจมีลักษณะผิดปกติ
- รู้สึกเจ็บและมีเลือดไหลขณะมีเพศสัมพันธ์
- อาจเกิดอาการภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ (PID) หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา
สาเหตุที่พบบ่อย
สาเหตุของท่อปัสสาวะอักเสบที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ทางทวารหนัก หรือทางช่องคลอดโดยไม่มีการป้องกัน นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อกันได้เมื่อใช้เซ็กส์ทอยร่วมกัน
ท่อปัสสาวะอักเสบยังอาจมีสาเหตุมาจากยาระงับกลิ่น สบู่ ภาวะหนังหุ้มปลายตีบ การสอดใส่วัตถุ เช่น เครื่องตรวจท่อปัสสาวะหรือสายสวนปัสสาวะเข้าไปในท่อปัสสาวะ การเสียดสีมากเกินไปขณะมีเพศสัมพันธ์หรือการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเกินปกติ หรือการบีบท่อปัสสาวะบ่อย ๆ
มีเพียงท่อปัสสาวะอักเสบที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่านั้นที่สามารถติดต่อกันได้
การป้องกัน
คุณสามารถป้องกันการติดเชื้อ ได้ดังนี้:
- ใช้ถุงยางอนามัยและแผ่นยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ก้น และปาก
- ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อใช้เซ็กส์ทอยร่วมกัน
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ท่อปัสสาวะระคายเคือง
- ใช้อุปกรณ์ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์และปลอดเชื้อ (เช่น เครื่องตรวจ สายสวนปัสสาวะ ฯลฯ) สำหรับบริการที่ต้องเล่นกับท่อปัสสาวะ (โดยเฉพาะผู้ที่ให้บริการ BDSM แสดงเป็นหมอ/พยาบาล คิ้งก์ – กิจกรรมที่เกินไปกว่าเซ็กซ์ในรูปแบบปกติ หรือเฟติช – สนองกามารมณ์โดยใช้วัตถุหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย)
แนะนำให้คุณเปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งที่เปลี่ยนจากการมีเพศสัมพันธ์ผ่านทางทวารหนักเป็นช่องคลอดหรือทางปาก
การตรวจ
ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจโรคท่อปัสสาวะอักเสบในรัฐนิวเซาท์เวลส์มีดังนี้ คุณสามารถดูรายชื่อคลินิกสุขภาพทางเพศที่ยินดีให้คำปรึกษากับคนทำงานบริการได้ที่สถานที่ตรวจของเรา
วิธีตรวจ
- ตรวจโดยใช้ไม้สวอบป้ายเก็บตัวอย่าง
- ตรวจปัสสาวะ
- ตรวจสุขภาพทางเพศทั่วไปเพื่อแยกการติดเชื้ออื่น ๆ ออกไป
ควรตรวจเมื่อใด
- เมื่อคุณมีอาการ
- หากคู่นอนมีผลตรวจโรคท่อปัสสาวะอักเสบเป็นบวก
ข้อมูลอื่นๆ
- ผู้ป่วยโรคท่อปัสสาวะอักเสบอาจจะไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะในผู้ที่มีช่องคลอด และการไม่ได้ใส่ใจอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นเป็นเรื่องธรรมดา
- โรคท่อปัสสาวะอักเสบไม่ได้รวมอยู่ในการตรวจสุขภาพทางเพศตามปกติ แต่มักจะได้รับการวินิจฉัยหลังจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ถูกตัดออกไป
- คลินิกสุขภาพทางเพศมักจะไม่เรียกเก็บค่าตรวจโดยเรียกเก็บจากรัฐบาลแทน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีสวัสดิการ Medicare การตรวจก็น่าจะฟรี
- หากคุณพบแพทย์ GP คุณอาจจะเสียค่าธรรมเนียมหรือฟรีโดยแพทย์เรียกเก็บเงินจากรัฐบาลแทน
การรักษา
โรคท่อปัสสาวะอักเสบสามารถรักษาให้หายได้ง่าย ข้อมูลที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับการรักษาโรคนี้มีดังนี้
วิธีรักษา
- ท่อปัสสาวะอักเสบมักจะรักษาด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ
- อาการที่เกิดขึ้นซ้ำหรือเป็นอย่างต่อเนื่องอาจต้องได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ
ค่าใช้จ่ายและข้อมูลอื่นๆ
- คุณยังคงสามารถแพร่เชื้อได้จนกว่าคุณจะทานยาปฏิชีวนะจนครบและอาการของคุณหายไป
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาขึ้นอยู่กับยาปฏิชีวนะที่แพทย์สั่งจ่ายให้คุณ
- คลินิกสุขภาพทางเพศมักจะไม่เรียกเก็บค่ารักษาโดยเรียกเก็บจากรัฐบาลแทน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีสวัสดิการ Medicare การรักษาก็น่าจะฟรี
- หากคุณพบแพทย์ GP คุณอาจจะเสียค่าธรรมเนียมหรือฟรีโดยแพทย์เรียกเก็บเงินจากรัฐบาลแทน
- โรคท่อปัสสาวะอักเสบสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่ร่างกายคุณจะไม่สร้างภูมิคุ้มกัน คุณอาจจะติดเชื้อซ้ำอีกได้
ท่อปัสสาวะอักเสบอาจจะกระทบต่องานของฉันได้อย่างไร
ข้อควรพิจารณาในทางปฏิบัติ
- ขอแนะนำให้คุณงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าคุณจะได้รับยาจนครบและอาการของคุณหายขาดแล้ว
- หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ได้ การสวมถุงยางอนามัยจะช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อ แต่ไม่สามารถรับประกันได้
- โรคท่อปัสสาวะอักเสบยังอาจเพิ่มโอกาสในการแพร่เชื้อ HIV เนื่องจากรอยแผลจากการอักเสบที่เยื่อในท่อปัสสาวะ
- ยาปฏิชีวนะบางประเภทสามารถลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน (‘ยาคุม’) ได้
- หากคุณมักเป็นเชื้อราเมื่อรับประทานยาปฏิชีวนะ คุณควรทานพวกโพรไบโอติกส์ระหว่างและหลังการรับประทานยารักษาเพื่อป้องกันภาวะเชื้อราในช่องคลอด