โรคบิดชิเกลลา (Shigella)

This post is also available in: English (อังกฤษ) 简体中文 (จีนประยุกต์) 한국어 (เกาหลี)

ชิเกลลาเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในลำไส้ ซึ่งจะมีการแพร่เชื้อเมื่ออุจจาระ (อึ) ที่ติดเชื้อเข้าสู่ปาก โรคบิดชิเกลลาติดต่อกันได้ง่ายมากและก่อให้เกิดอาการท้องร่วง แม้ว่าโรคบิดชิเกลลาไม่ได้ติดต่อกันผ่านทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะ แต่การมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นช่องทางการติดต่อที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระหว่างให้บริการเล่นกับก้น ตามปกติแล้ว โรคบิดชิเกลลาจะหายได้เอง แต่การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะสามารถลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการได้ 

ลักษณะผิดสังเกตและอาการ

หากคุณมีอาการ อาการมักจะเกิดขึ้นภายใน 12 ชั่วโมง – 4 วัน หลังจากได้รับเชื้อ โรคบิดชิเกลลามักจะไม่แสดงอาการใด ๆ แต่ก็แพร่เชื้อได้ถึงแม้ไม่มีอาการปรากฏให้เห็น เมื่อปล่อยโรคบิดชิเกลลาไว้โดยไม่รักษา อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ เช่น ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง การติดเชื้อในกระแสเลือด และภาวะแทรกซ้อนในลำไส้

อาการและผลกระทบของโรคบิดชิเกลลาอาจประกอบไปด้วย:

  • ท้องเสีย (ถ่ายเป็นน้ำ บางครั้งมีเลือดและ/หรือมูก)
  • อาเจียน
  • คลื่นไส้
  • ปวดท้องและเป็นตะคริว
  • มีไข้

สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ HIV อาการของโรคบิดชิเกลลาอาจจะรุนแรงมากกว่าและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 

การแพร่เชื้อ

โรคบิดชิเกลลาเป็นโรคที่ติดต่อและแพร่เชื้อให้กันได้ง่ายมาก เชื้อจะอยู่ในอุจจาระของผู้ที่มีเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวในร่างกาย โรคนี้จะติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งผ่านทางอุจจาระเข้าสู่ปาก คุณยังสามารถแพร่เชื้อหรือติดเชิ้อโรคบิดชิเกลลาได้แม้ไม่มีอาการใด ๆ

โรคบิดชิเกลลาที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์สามารถเกิดขึ้นได้จาก:

  • ติดโดยตรงผ่านการใช้ปากกับก้น (การใช้ลิ้นเลียก้น) หรือการให้บริการล้างตู้เย็น 
  • การใส่นิ้วที่ติดเชื้อเข้าปากหลังจากที่สอดนิ้วหรือกำปั้นเข้าก้น
  • การใส่นิ้วที่ติดเชื้อเข้าปากหลังจากที่ไปสัมผัสกับวัตถุสิ่งของที่ติดเชื้อ เช่น ถุงยางอนามัย ถุงมือ และเซ็กส์ทอยที่ใช้แล้ว 
  • การสัมผัสกันระหว่างปากกับสิ่งของที่ติดเชื้อ เช่น ถุงยางอนามัยและเซ็กส์ทอยที่ใช้แล้ว

โรคบิดชิเกลลายังสามารถเข้าสู่ร่างกายของคุณโดยการสัมผัสระหว่างสิ่งของอื่น ๆ ที่ติดเชื้อกับปากของคุณ เช่น บุหรี่หรือถ้วยน้ำที่มีเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวติดอยู่ 

นอกจากนี้ โรคบิดชิเกลลายังสามารถติดต่อได้ทางอ้อมผ่านอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ 

การป้องกัน

ในการป้องกันโรคบิดชิเกลลา ให้ตระหนักเสมอว่าอนุภาคอุจจาระ (อึ) ขนาดเล็กสามารถเข้าสู่ปากของคุณได้ง่ายมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณกัดเล็บ จุดบุหรี่ เตรียมอาหาร และใช้ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกัน เช่น ถ้วย ขวดน้ำ และของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน 

คุณสามารถช่วยป้องกันการแพร่เชื้อบิดชิเกลลาได้ดังนี้:

  • สวมถุงมือหากให้บริการเล่นกับก้น เช่น การสอดนิ้วหรือกำปั้นเข้าก้น
  • ใช้แผ่นยางอนามัย พลาสติกแรป หรืออุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ สำหรับงานที่ใช้ปากกับก้น (คุณสามารถตัดถุงยางอนามัยออกและวางแผ่เพื่อการนี้)
  • เปลี่ยนถุงยางอนามัยระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ทางปากกับก้นและองคชาต เซ็กส์ทอย หรือวัตถุอื่น ๆ
  • ล้างมือหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ทางก้น
  • ล้างมือหลังจากที่จับถุงยางอนามัย ถุงมือ หรือเซ็กส์ทอยที่ใช้เล่นกับก้น
  • ล้างและ/หรือฆ่าเชื้อเซ็กส์ทอยที่ใช้เล่นกับก้นหลังการใช้งาน

แนะนำให้คุณเปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งที่เปลี่ยนจากการมีเพศสัมพันธ์ผ่านทางก้นเป็นช่องคลอดหรือทางปาก

การตรวจ 

ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจโรคบิดชิเกลลา มีดังนี้ คุณสามารถดูรายชื่อคลินิกสุขภาพทางเพศที่ยินดีให้คำปรึกษากับคนทำงานบริการได้ที่สถานที่ตรวจของเรา

วิธีตรวจ

  • ตรวจอุจจาระ (ตัวอย่างอึ)

ควรตรวจเมื่อใด

  • หากคุณมีอาการของโรคบิดชิเกลลา  

ข้อมูลอื่นๆ

  • คลินิกสุขภาพทางเพศมักจะไม่เรียกเก็บค่าตรวจโดยเรียกเก็บจากรัฐบาลแทน แม้คุณจะไม่มีสวัสดิการ Medicare การตรวจก็น่าจะฟรี 
  • หากคุณพบแพทย์ GP คุณอาจจะเสียค่าธรรมเนียมหรือฟรีโดยแพทย์เรียกเก็บเงินจากรัฐบาลแทน

การรักษา

โรคบิดชิเกลลาสามารถรักษาให้หายได้ ข้อมูลที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับการรักษามีดังนี้   

วิธีรักษา

  • โรคบิดชิเกลลามักจะหายได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ (ใช้สารละลายเกลือแร่ เช่น Hydralyte หากจำเป็น) และพักผ่อนให้เพียงพอ 
  • การรับประทานยาปฏิชีวนะจะใช้เพื่อให้อาการทุเลาเร็วขึ้นในกรณีที่มีอาการรุนแรง

ค่าใช้จ่ายและข้อมูลอื่นๆ 

  • ค่าใช้จ่ายในการรักษาขึ้นอยู่กับยาปฏิชีวนะที่แพทย์สั่งจ่ายให้คุณ
  • คลินิกสุขภาพทางเพศมักจะไม่เรียกเก็บค่ารักษาโดยเรียกเก็บจากรัฐบาลแทน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีสวัสดิการ Medicare การรักษาก็น่าจะฟรี 
  • หากคุณพบแพทย์ GP คุณก็อาจจะเสียค่าธรรมเนียมหรือฟรีโดยแพทย์เรียกเก็บเงินจากรัฐบาลแทน 
  • โรคบิดชิเกลลาสามารถรักษาให้หายได้ แต่ร่างกายจะไม่สร้างภูมิคุ้มกันใด ๆ ขึ้นมา คุณอาจติดเชื้อชิเกลลาซ้ำอีกได้

ในประเทศออสเตรเลีย มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเชื้อชิเกลลาที่ดื้อต่อยาหลายขนาน ซึ่งหมายความว่ายาปฏิชีวนะแบบรับประทานที่มีอยู่ไม่สามารถรักษาการติดเชื้อได้ ในกรณีเหล่านี้ ผู้ป่วยต้องได้รับยาปฏิชีวนะโดยการฉีดเข้าเส้นเลือดที่โรงพยาบาล 

โรคบิดชิเกลลาอาจจะกระทบต่องานของฉันได้อย่างไร 

ข้อควรพิจารณาในทางปฏิบัติ

  • คุณอาจรู้สึกยังไม่หายดีพอที่จะไปทำงาน
  • อาการท้องเสียอาจทำให้ทำงานลำบาก
  • แพทย์แนะนำให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าคุณจะไม่มีอาการใด ๆ อีก เนื่องจากโรคบิดชิเกลลาติดต่อกันได้ง่ายมาก 
  • หากคุณไม่สามารถหยุดงานได้ในช่วงนี้ คุณอาจพิจารณาให้บริการแบบไม่สัมผัสร่างกาย/ออนไลน์หรือทางโทรศัพท์แทน 
  • ยาปฏิชีวนะบางประเภทสามารถลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน (‘ยาคุม’) ได้ 
  • หากคุณมักเป็นเชื้อราเมื่อใช้ยาปฏิชีวนะ คุณควรทานพวกโพรไบโอติกส์ระหว่างและหลังการใช้ยาเพื่อป้องกันภาวะเชื้อราในช่องคลอด
  • คุณควรแจ้งบุคคลที่ทำงานขึ้นคู่กับคุณด้วย หากคุณมีผลตรวจเชื้อบิดชิเกลลาเป็นบวก

ข้อควรพิจารณาด้านกฎหมายและการแจ้งผลตรวจ

  • โรคบิดชิเกลลาเป็นโรคที่จำเป็นต้องแจ้งผลทั่วประเทศในออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยจะถูกรายงานผลไปยังหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐหรือดินแดนนั้น ๆ โดยไม่ระบุชื่อผู้ป่วย  คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดในรัฐและดินแดนที่คุณอาศัยอยู่ได้ที่ข้อมูลกฎหมายและ BBV STI 

Rate this resource:

Was this article useful?

As you found this post useful...

Follow us on social media!

We are sorry that this post was not useful for you!

What can we do to make this a stronger resource for sex workers?

Tell us how we can improve this post.